สโมสรฟุตบอล โอลิมปิก มาร์กเซย์ ​
หุ้นส่วนอย่างเป็นทางการในเอเชีย​

ดีมีตาร์ เบอร์บาตอฟ
แบรนด์แอมบาสเดอร์อย่างเป็นทางการ

อาร์เตตา เผยเบื้องหลัง

กุนซืออาร์เซนอล เผยเบื้องหลังส่งดาวรุ่งวัย 15 ปี ลงมาทุบสถิติแข้งอายุน้อยที่สุดในพรีเมียร์ลีก เกมชนะ เบรนท์ฟอร์ด ทวงคืนจ่าฝูงวันที่ 18 กันยายน 2565 มิเกล อาร์เตตา ผู้จัดการทีมอาร์เซนอล ข่าวบอล ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมพรีเมียร์ลีก อาร์เตตา เผยเบื้องหลัง อังกฤษ ฤดูกาล 2022-23 นัดที่ 7 ซึ่งบุกไปเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด ถึงถิ่น 3-0 ล้างตาจากที่เคยออกไปแพ้ 0-2 ในนัดเปิดซีซั่นที่แล้วได้สำเร็จ พร้อมเก็บเพิ่มเป็น 18 คะแนน แซง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ สเปอร์ส ที่มี 17 แต้ม 

กลับขึ้นไปเป็นจ่าฝูงอีกครั้งก่อนพักเบรกทีมชาติด้าน อาร์เตตา พูดถึงการบุกมาชำระแค้น เบรนท์ฟอร์ด จากฤดูกาลที่แล้ว พร้อมทวงบัลลังก์จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกคืนจาก แมนฯ ซิตี้ ได้สำเร็จว่า “ผมพอใจมาก มันไม่ง่ายเลยที่จะมาชนะที่นี่ได้ แต่วันนี้เราครองเกมได้สำเร็จ ผมได้พูดก่อนลงสนามว่า เกมที่นี่เมื่อฤดูกาลที่แล้วเป็นวันที่แย่ มันเป็นวันที่เราต้องดึงคาแรกเตอร์ของทีมออกมา ทีมต้องพัฒนาและเรียนรู้จากบทเรียนและก้าวไปข้างหน้า”นอกจากนี้ อาร์เตตา 

ยังพูดถึงเบื้องหลังการใส่ชื่อ อีธาน เอ็นวาเนรี กองกลางดาวรุ่งวัย 15 ปี ที่เรียกตัวมาจากทีมเยาวชนของ อาร์เซนอล ชุดยู-21 ก่อนทำสถิติเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังเปลี่ยนตัวลงไปในนาทีสุดท้าย แทน ฟาบิโอ วิเอรา ซึ่งยิงประตูแรกนับตั้งแต่ย้ายมาจาก ปอร์โต ว่า “ในสถานการณ์ต่างๆ เรามักจะรวมใจกันเสมอ ซึ่งการฝึกซ้อมเมื่อวานนี้ เรามีผู้เล่นในทีมชุดใหญ่เพียง 12 คน แต่ผมไม่อยากใช้เป็นข้อแก้ตัว”

“แต่คุณจะเห็นได้ว่าวันนี้เรามีดาวรุ่งบางคนในรายชื่อ เรามีโอกาสที่จะเรียกผู้เล่นอายุน้อยเข้ามาสู่ทีม เพราะเราเหลือตัวเลือกค่อนข้างน้อย (มาร์ติน โอเดการ์ด และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก เจ็บซ้ำก่อนเกมนี้) และโอกาสจะมาถึงดาวรุ่งเมื่อเกิดปัญหาขึ้น ส่วนการสร้างประวัติศาสตร์ของ อีธาน นั้นยอดเยี่ยมมาก เขาสมควรได้รับมัน เขาทำได้ดีมาก เขาเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์สูง ซึ่งเราอยากเก็บเขาไว้”สำหรับ อีธาน เอ็นวาเนรี กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก ด้วยวัย 15 ปี 181 วัน ทำลายสถิติเดิมของ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ดาวเตะลิเวอร์พูลที่เคยทำไว้ในวัย 16 ปี 30 วัน สมัยยังอยู่กับ ฟูแลม ในเกมพบ วูล์ฟแฮมป์ตัน เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ปี 2019

Facebook
Twitter
LinkedIn
Scroll to Top