หากกล่าวถึง เกมยิงสุดมัน ก็คงจะไม่มีใครกล้าพลาด เกมยิงปืน อย่างเกม VALORANT ซึ่งเป็นหนึ่งในสุดยอดเกมยิงปืนที่ได้รับความนิยมระดับโลกเนื่องจากจุดเด่นของเกมที่หลากหลายทั้งสกิลตัวละคร เอกลักษณ์ของตัวละครที่แตกต่างกันออกไป ทำให้เกมนี้ได้รับความนิยมไม่ยาก นอกจากนี้เกมนี้ยังเป็น เกมฟรี ด้วย ทั้งนี้ในบทความเราจะไม่แนะนำเกี่ยวกับตัวเกมแต่จะแนะนำเกี่ยวกับปืนซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้การเล่นเกม VALORANT สนุกมากยิ่งขึ้นแทน
สารบัญ
รวมจุดเด่นของปืนจาก VALORANT เกมยิงสุดมัน
VALORANT เป็น เกมยิงสุดมัน แบบทีมที่มีหลายตัวละครและปืนต่าง ๆ ให้เลือกใช้ โดยที่เราจะกล่าวถึงดังต่อไปนี้ล้วนแล้วแต่เป็นปืนจากเกมทั้งสิ้น
Sidearms
ปืนพกเริ่มต้น ราคาถูกที่สุด จึงมักจะถูกซื้อในช่วงต้นเกม ซึ่งแต่ละปืนก็มีจุดเด่นในการนำไปใช้งานแตกต่างกันออกไป ดังนี้
- Classic: ปืนที่ราคาถูกที่สุดในเกม มีความเสถียร ยิงไว เหมาะกับการยิงในระยะใกล้ ๆ มากกว่าระยะไกล
- Shorty: ปืนระยะใกล้ ดาเมจแรง ที่ยิงระยะไกลจะไม่ค่อยแม่นยำนัก ราคาไม่แพง เหมาะกับการซื้อใช้งานนช่วงแรกของเกม
- Frenzy: หากคุณเป็นคนที่แม่นปืนปืนนี้น่าจะเป็นคำตอบ ด้วยจุดเด่นที่ราคาถูก และหากยิงโดนหัวแค่นัดสองนัดศัตรูก็ตาย จึงเป็นปืนอีกกระบอกที่ได้รับความนิยม
- Ghost: ปืนที่ยิงได้ดีในระยะกลางและระยะไกล ซึ่งค่อนข้างมีความเร็วในการยิงที่สูงและหากอยากเพิ่มดาเมจการยิงให้โดนศีรษะจะเพิ่มได้หลายเท่าตัว
- Sheriff: ปืนที่มีดาเมจรุนแรงมากที่สุดหากยิงได้ในระยะใกล้และระยะกลางและเมื่อยิงโดนจุดอ่อนจะยิ่งรุนแรงเป็นอย่างมาก
SMGs
ปืนที่มีประสิทธิภาพในระยะกลางและระยะใกล้ กระสุนเยอะ ยิงถี่ ดาเมจไม่สูงมาก โดยในเกมจะมีทั้งหมด 2 ปืน ได้แก่
- Stinger: ปืนที่มีดาเมจรุนแรงพร้อมเบิร์สดาเมจในระยะกลางได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งเป้ายังนิ่ง ยิ่งง่ายมาก ๆ เจาะกำแพงได้ดีในระดับหนึ่ง
- Spectre: ปืนที่เน้นความเร็วและความรัวในการยิง เก่งเป็นพิเศษในช่วงระยะประชิดจนถึงระยะกลาง นอกจากนี้ยังเบิร์สดาเมจได้ด้วย
Rifles
ปืนที่มีดาเมจและค่อนข้างรุนแรง มีประสิทธิภาพในช่วงระยะกลางไปจนถึงระยะไกล โดยจะมีปืนทั้งหมด ดังต่อไปนี้
- Bulldog: ปืนที่ยิงออกมาพร้อมกันทีละ 3 นัด และระหว่างยิงยังเคลื่อนที่ได้ด้วย
- Guardian: ปืนที่ทำดาเมจได้รุนแรง เป็นปืนระบบเซมิออโต้ที่หากคลิกยิงรัว ๆ กระสุนจะเด้งขึ้นด้านบนในนัดที่ 1-4 และกระจายไปทางขวาในนัดที่ 5
- Phantom: ปืนแบบฟลูออโต้ ใน 1 แม็กมี 30 นัด ด้วยระยะสโคป 1.25 เท่า พร้อมกันนี้ดาเมจของปืนจะอยู่ในระยะเท่า ๆ กัน
- Vandal: ปืนยอดฮิตเพราะถ้ายิงโดนหัวทีเดียวไม่ว่าใครโดนก็ร่วงในทันที แต่ตัวปืนค่อนข้างดีดทำให้จำเป็นต้องควบคุมปืนให้เป็นถึงจะดี
Shotguns
ปืนระยะประชิด ยิ่งยิงจ่อยิ่งแรง ทำให้หลาย ๆ ครั้งมักใช้สังหารอีกฝ่ายในจังหวะกระชากหรือตกใจ มีทั้งหมด 2 ชนิด ดังนี้
- Bucky: ปืนราคาประหยัดที่กระสุนจะพุ่งรวมกันเป็นกระจุกเดียวในระยะไกล 5กระสุน 5 นัด ต่อแม็กกาซีน ชักเปลี่ยนกระสุนได้ค่อนข้างช้า
- Judge: ปืนที่สามารถหยุดศัตรูได้ในระยะใกล้ ยิ่งรวมกันเป็นกระจุกเดียวกันก็มีโอกาสโดนสังหารหมู่ได้
Sniper Rifles
ปืนระยะไกลที่มีความสามารถในการรเจาะเกราะและทำดาเมจได้แบบทะลุทะลวง กระสุนน้อย แรงถีบสูง ที่ยิงจ่ออีกฝ่ายได้ถึงตาย มีทั้งหมด 2 ชนิด ดังนี้
Marshal: สไนเปอร์ราคาถูกที่เหมาะสำหรับช่วงเริ่มเกมเพราะหากยิงถูกศีรษะก็สามารถสังหารศัตรูได้เช่นกัน
Operator: สไนเปอร์สุดแพงที่ใช้สำหรับยิงเจาะเกราะโดยเฉพาะ
Machine Guns
ปืนใหญ่พิเศษชนิดทำลายล้างสูง สามารถใช้ในการโซนพื้นที่ได้ โดยจะมีทั้งหมด 2 ชนิด ดังนี้
- Ares: ปืนดาเมจแรงและยังมีดาเมจยิงทะลุ พร้อมกันนี้ตัวปืนค่อนข้างหนักจึงไม่เหมาะกับฮีโร่สายเคลื่อนที่
- Odin: ปืนราคาแพงที่กระสุนค่อนข้างรัว ยิงสนุก ทำดาเมจได้อย่างต่อเนื่องและรุนแรง เหมาะกับการยิ่งเพื่อทลายแนวหลังของฝั่งตรงข้าม
สรุป
ในการเลือกปืน VALORANT เกมยิงสุดมัน ควรพิจารณาสไตล์เล่นและความสามารถของตัวละคร เพื่อประกอบการเลือกใช้งานปืนที่ตนเองถนัดเพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะและกลายเป็นการสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับเพื่อนร่วมทีมเพื่อให้คุณเล่น เกมยิงต่อสู้ เกมนี้ได้อย่างสนุกสนานมากที่สุด
