หลาย ๆ คนก็คงจะรู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว หากเราพูดถึงเกมแนว Battle Royale อีสปอร์ต อีกเกมที่เรียกได้ว่า ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมืองอย่าง Fortnite แต่ถึงแม้ตัวเกมจะมีกราฟิกและภาพ ที่ออกแนวการ์ตูนและระบบการเล่น ที่ค่อนข้างจะสนุกแบบที่เกม Battle Royale เกมอื่น ๆ ทำตามได้ยาก Fortnite สเปคคอมสูงพอตัว จึงจะสามารถเล่นได้อย่างชิว ๆ แต่ถ้าเป็นสเป็คขั้นต่ำของ PC ที่จะสามารถเล่นเกม Fortnite ได้นั้น ผู้เล่นก็อาจจะต้องปรับภาพ และ กราฟิกให้ลดลงเยอะพอสมควร ถึงจะสามารถเล่นเกม Fortnite เล่นฟรี แบบลื่น ๆ ได้
- สำหรับคอมสเป็คต่ำนั้น อาจจะต้องมีการปรับภาพให้ลดลงพอตัว ถึงจะสามารถเล่นเกม Fortnite ได้
- แต่ถ้าสำหรับใครที่มีคอมสเป็คสูง ๆ ก็สามารถเล่นเกม Fortnite ปรับภาพสุด ๆ ได้อย่างชิว ๆ
สารบัญ
Fortnite สเปคขั้นต่ำที่สามารถเล่นเกมได้
สำหรับ Fortnite สเปคขั้นต่ำที่จะสามารถเล่นเกมแนว Sandbox จาก Epic Game ภาพสวยสไตล์การ์ตูนได้นั้น ผู้เล่นจะต้องมีสเป็คคอมที่ประมาณ
- VIDEO CARD: Intel HD 4000
- CPU: Core i3 2.4 Ghz
- RAM: 4 GB
- OS: Windows 7/8/10 64-bit + Mac OSX Sierra
โดยหากใช้สเป็คคอมประมาณนี้ ผู้เล่นนั้นก็อาจจะต้องมีการ ปรับในด้านของ Option ในด้านกราฟิกให้มีการ low และสมูทเข้ากับคอมพิวเตอร์ของเรามากขึ้น แต่การปรับภาพต่ำลงนั้น จะช่วยให้เฟรมเรทของเกมนั้น มีความลื่นไหลและเหมาะกับ PC ของเรา เพื่อให้เล่นเกม Fortnite ได้อย่างเต็มที่
สเป็คแนะนำที่สามารถเล่นเกม Fortnite สเปคประมาณไหน ?
ถ้าหากอยากจะเล่นเกม Fortnite สเปค คอม แบบชิว ๆ โดยไม่ต้องปรับภาพให้ต่ำลง ผู้เล่นนั้นก็ต้องมีสเป็คของคอมพิวเตอร์ในระดับประมาณนี้
- VIDEO CARD: Nvidia GTX 660 or AMD Radeon HD 7870 equivalent DX11 GPU (2 GB VRAM)
- CPU: Core i5 2.8 Ghz
- RAM: 8 GB
- OS: Windows 7/8/10 64-bit
- หรือสเป็คที่สูงกว่านี้ ก็ยิ่งจะสามารถเล่น Fortnite ได้ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น
โหมด Performance ทางออกสำหรับการเล่นเกม Fortnite สเปคต่ำให้เล่นได้อย่างไหวชิว
แน่นอนว่าถ้าหากใครที่เล่นเกม Fortnite ในระบบของคอมพิวเตอร์ที่มีสเป็คต่ำ ที่อาจจะทำให้การเล่นนั้นมีการเกิดภาพกระตุก ค้าง และปัญหาต่าง ๆ ที่คอมสเป็คต่ำมักจะมีกัน แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปอย่างแน่นอน เพราะในตอนนี้ JBOSPORT ได้มีทางออกสำหรับคนสเป็คน้อย ให้สามารถเล่นเกม Fortnite ได้อย่างชิว ๆ และไม่ค้างไม่กระตุกอีกต่อไป โดยทางออกนี้นั่นก็คือ “โหมด Performance”
โดยโหมดนี้จะช่วยให้สเป็คที่ต่ำ สามารถเล่นเกม Fortnite ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจะมีการลดการใช้งานในหน่วยความจำ ให้ลดลงเล็กน้อยเพื่อ และจะลดการทำงานของ CPU และ GPU ให้เหมาะกับเครื่องของเรามากยิ่งขึ้น และสำหรับโหมดอย่าง Performance ก็จะช่วยให้ตัวเครื่องนั้น สามารถรันเกม Fortnite ให้มีเฟรมเรทที่อยู่ในระดับที่ดี และ มีภาพกราฟิกที่ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น แต่การใช้งานโหมด Performance นั้น
ผู้เล่นจะสามารถเปิดใช้งานในเกม Fortnite ได้แค่ 2 โหมดเพียงเท่านั้น โดยโหมดที่เปิดใช้งานได้ก็จะมีแค่โหมด Creative และ Battle Royale นั่นเอง ส่วนโหมดหลักของเกม Fortnite อย่าง Save the World นั้น จะไม่สามารถเปิดใช้งานโหมด Performance ได้ (เพราะโหมดนี้ยังไม่รองรับการใช้งาน)
- สำหรับโหมด Performance จะเป็นโหมดที่สามารถเปิดใช้งานได้โดยตรงผ่านเกม Fortnite
- หากเปิดใช้งานโหมดนี้ จะช่วยให้เครื่องคอมที่มีสเป็คต่ำ สามารถรันเกม Fortnite ได้ดีและมีเฟรมเรทที่ลื่นไหลมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพราะโหมดนี้จะจะลดการทำงานของ CPU และ GPU ให้เหมาะกับเครื่องของเรา
- ผู้เล่นนั้นจะสามารถเปิดใช้งาน Performance ได้ผ่านแค่ 2 โหมดเท่านั้นนั่นก็คือ Creative และ Battle Royale เท่านั้นเอง
- ส่วนโหมด Save the World นั้นจะไม่สามารถใช้งานโหมด Performance ได้เพราะตัวเกมนั้นยังไม่รองรับโหมดนี้
- รับประกันเลยว่าหากใครที่มีคอมพิวเตอร์ที่มีสเป็คน้อย หากใช้งานโหมดนี้ ก็จะสามารถเล่นเกมFortnite download ได้ลื่นไหลกว่าเดิมมากอย่างแน่นอน
